Saturday, July 13, 2013

วิธีติดตั้ง LXAdmin (Kloxo admin) บน CentOS

1. ตามปกติแล้วตัว Centos นั้นจะต้องไม่มีการ Block port 7777 หรือ 7778 ไม่เช่นนั้นจะทำให้เข้า LXAdmin Panel ไม่ได้ ก่อนอื่นให้เปิด Terminal (Putty) ขึ้นมา หรือ Access ผ่าน SSH คุณเข้าถึงเครื่องได้แบบไหนก็แบบนั้นแหละ โดยใช้สิทธิ root แล้วใช้คำสั่ง
# setenforce 0
แล้ว Enter ไปหนึ่งที ถ้า selinux enable อยู่มันจะขึ้นว่า selinux=disabled ถ้าไม่ขึ้นก็ช่างมัน แล้วก็เริ่มอัพเดทตัว linux server กันหน่อย
# yum update -y
2. คราวนี้ก็เริ่มทำการติดตั้งได้เลย
# wget http://download.lxcenter.org/download/kloxo/production/kloxo-installer.sh
# chmod 755 kloxo-installer.sh
# sh ./kloxo-installer.sh master
กด Enter เสร็จแล้ว ไม่ยากเลย คอยอย่างเดียว มันจะขึ้นให้เราเลือกยอมรับพวก GNU ลิขสิทธิ์นิดหน่อย ก็ยอมรับมันไปเหอะ ไม่ต้องคิดมาก
3. เซตตัว my.cnf กันเลย เพื่อความไหลลื่นของ mySQL (เลือกอันใดอันหนึ่งก็พอ)
ถ้าเรามีแรมอยู่ 512 MB ก็จะใช้ไฟล์ my-medium.cnf
# cp /usr/share/mysql/my-large.cnf /etc/my.cnf
# service mysqld restart
ถ้าเรามีแรมอยู่ 1-2 GB ก็ใช้อันนี้
# cp /usr/share/mysql/my-huge.cnf /etc/my.cnf
# service mysqld restart
4. เริ่ม login เข้าไป โดยใช้
http://IPaddress:7778 (https://IPaddress:7778)
user : admin
pass : admin

5. ทำการแก้ไข password เพื่อความปลอดภัย (รูป)
ที่เมนู Admin => Administration => Password

6. เพิ่ม DNS – Add a DNS Template (รูป)
ไปที่  Admin => Resource => DNS Template => Add DNS Template
DNS Template Name = ตั้งชื่ออะไรก็ได้ กันลืม เช่น MyDomain
Web Ipaddress = เลือกไอพีที่ต้องการ
Mail Ipaddress = เลือกไอพีที่ต้องการ
Primary DNS = ตั้งเป็น ns1.mydoamin.com
Secondary DNS = ตั้งเป็น ns2.mydoamin.com
กด Add เลย


7. สร้าง Package (รูป)
ไปที่  Admin => Administration => Resource Plan => Add Resource Plan
แล้วตั้งค่าไปตามที่กำหนด ส่วนมากจะเป็น unlimited

8. Add Customer (รูป)
ไปที่  Admin => Administration => Clients => Add Customer
กรอกข้อมูลตามจริง
9. MySQL Change Password เพื่อเอาไปใช้ในการติดตั้งโปรแกรมต่างๆต่อไป
ไปที่  Admin => Web&Mail&DB => MySQLPasswordReset


10. ปรับค่าฟังค์ชันการทำงานของตัว php กันด้วย
ไปที่  Admin => Web&Mail&DB => PHP Config
เปิดมาจะมี 2 tab คือ PHP Config กับ Advanced PHP Config โดยที่
10.1 PHP Config ให้เซตตามรูป โดยให้เลือก 4 ตัว คือ
Display Errors : ให้แสดงข้อความ ถ้ามี error เกิดขึ้น
Enable Xcache : ใช้ xcache ช่วยแบ่งเบาภาระ server
Enable Zend : สคริปต์ที่เข้ารหัสส่วนมากมักจะใช้ตัวนี้
Enable Ioncube : สคริปต์ที่เข้ารหัสส่วนมากมักจะใช้ตัวนี้

10.2 Advanced PHP Config ให้ลองปรับค่าเพิ่มขึ้นทีละ step ในส่วนของ (ไม่อธิบายละกัน มันยาวมาก)
Max Execution Time
Max Input Time
Memory Limit
Post Max Size
Upload File Max Size

11. ในกรณีที่เราลง wordpress MU ก็ให้ไปทำ wildcard DNS ด้วย
ในเมนู Domains เลือกโดเมนที่จะทำ wildcard แล้วให้ไปที่ Extra==> Server Alias ==> ใส่ * กด a


12. เสร็จทุกอย่างก็ให้ restart ตัว server ของเราทีนึง ก็จบเลย พร้อมใช้งาน

Wednesday, October 3, 2012

การทำลิ้งค์ภาษาไทย wordpress ให้ยาว ๆ

การทำลิ้งค์ภาษาไทย wordpress ให้ยาว ๆ

เทคนิคการทำลิ้งค์ภาษาไทยของ wordpress ให้ยาว ๆ

การทำบล็อกภาษาไทย ด้วย wordpress เมื่อใช้การ rewrite url มักจะโดยตัดข้อความให้ขาดหาย ถ้าใครพบกับปัญหานี้บ่อย ๆ เรามีเทคนิคในการแก้ไขง่าย ๆ มาฝาก

1. ให้เข้าไปค้นหาไฟล์ที่ชื่อ formatting.php ซึ่งอยู่ในไดเร็คทอรี่ wp-includes

2. ทำการเปิดไฟล์ formation.php แล้วค้นหา

$title = utf8_uri_encode($title, 200);

ตรงนี้แหละครับคือส่วนปัญหาเพราะมีการตัดส่วนไตเติ้ลให้เหลือแค่ 200 ตัวอักษร ซึ่งถ้าเป็นภาษาอังกฤษน่าจะพอเพียงแต่พอเป็นภาษาไทยหนึ่งคำในภาษาไทยใช้หลาย ตัวอักษร ให้ลองแก้ค่าให้มากขึ้นครับ เช่นแก้เป็น 1000

$title = utf8_uri_encode($title, 1000);

แล้วลองดูว่าบทความของเรามีลิ้งค์ที่สวยพอดีหรือยัง ถ้ายังมีตัดคำหายอยู่ก็ลองเพิ่มค่าดังกล่าวให้มากขึ้น

3. เข้าไปแก้ไขไฟล์ดาต้าเบส โดยเข้าไปที่ตาราง wp_posts ทำการแก้ไขฟิลด์ post_name ทำการเปลี่ยนค่าของ varchar(200) เป็น varchar(1000) หรือค่าที่เราทำการเปลี่ยนแปลง

ง่าย ๆ แค่ 4 ขั้นตอน แค่นี้ลิ้งค์ภาษาไทย wordpress ของเราก็สวยงามแล้ว

Kloxo error "Some of Horde's configuration files are missing or unreadable conf.php"

Kloxo error "Some of Horde's configuration files are missing or unreadable conf.php"

วันนี้ติดตั้ง kloxo ใหม่ ปรากฏว่า webmail ทั้ง Horde และ RoundCube ใช้ไม่ได้ ขึ้น error ทั้งคู่

Error ของ Horde
"Some of Horde's configuration files are missing or unreadable conf.php"

ลองค้นหาวิธีแก้ไขใน LxCenter พบทางแก้ที่ได้ผลคือใช้คำสั่ง

chmod 644 /home/kloxo/httpd/webmail/horde/config/conf.php

ปัญหาคือไฟล์ conf.php ได้เปลี่ยน Permission เป็น 600 ทำให้ใช้งานไม่ได้

Error ของ RoundCube
Roundcube had "Configuration Error: db.inc.php"

ปัญหาเกิดขึ้นอย่างเดียวกันคือ Permission ของ db.inc.php เป็น 600
ทางแก้ก็ใช้ putty เข้าไปใช้คำสั่ง

chmod 644 /home/kloxo/httpd/webmail/roundcube/config/db.inc.php

WordPress Rewrite on Lighttpd

WordPress Rewrite on Lighttpd
 
 สำหรับคนที่ใช้ kloxo แล้วเลือกใช้ Lighttpd เป็น Web Server ครับ   เหตุที่เขียนเรื่องนี้ เพราะวันนี้ได้ลองลง WP ไว้บนโดเมนอักหนึ่ง (ของชาวบ้านเขา) แล้วเจ้า htaccess ดันไม่ทำงานบน Lighttpd ผมเลยต้องนั่งแก้ยาวเลย ดูภาพเอาง่ายกว่าครับ (ขี้เกียจอธิบาย) ขั้นตอนที่สอง url.rewrite-final = ( # Exclude some directories from rewriting “^/(wp-admin|wp-includes|wp-content|gallery2)/(.*)” => “$0″, “^/(.*.php)” => “$0″, “^/(.*)$” => “/index.php/$1″ ) แล้วกด Update ซะ เท่านั้นก็เพียงพอแล้วครับ     ขอขอบคุณ Teetenblog.com ที่เป็นหนูทดลองยาให้ O_o iChethost.ez.lv โฮสราคาประหยัด อยู่กันเหมือนญาติ


This blog now runs on a Lighttpd (Lighty) webserver instead of Apache, and this means the configuration for ‘pretty URLs’ or permalinks of WordPress doesn’t work like it used to.
(As you might have noticed, I use permalinks like /2007/02/this-is-permalink/)

Whereas WordPress can automatically adapt the Apache .htacccess file to something like
<IfModule mod_rewrite.c>
RewriteEngine On
RewriteBase /
RewriteCond %{REQUEST_FILENAME} !-f
RewriteCond %{REQUEST_FILENAME} !-d
RewriteRule . /index.php [L]
</IfModule>

it does not do anything automatically for your Lighty .conf configuration file (which is logical, since an application should not be allowed to mess with a central config file).

So what you have to use is:
  1. a WordPress blog installed in the root of your (sub-) domain:
    $HTTP["host"] =~ "{yourdomain}" {
    var.app = "{yourdomain}"
    accesslog.filename = base + "/logs/" + app + ".access.log"
    server.errorlog = base + "/logs/" + app + ".error.log"
    load php app
    url.rewrite = (
    "^/(wp-.+).*/?" => "$0",
    "^/(sitemap.xml)" => "$0",
    "^/(xmlrpc.php)" => "$0",
    "^/(.+)/?$" => "/index.php/$1"
    )
    }
  2. a WordPress blog installed in a subfolder (e.g. /blog/)
    $HTTP["host"] =~ "{yourdomain}" {
    var.app = "{yourdomain}"
    accesslog.filename = base + "/logs/" + app + ".access.log"
    server.errorlog = base + "/logs/" + app + ".error.log"
    load php app
    url.rewrite = (
    "^/?$" => "/blog/index.php",
    "^/blog/(wp-.+)$" => "$0",
    "^/blog/xmlrpc.php" => "$0",
    "^/blog/sitemap.xml" => "$0",
    "^/blog/(.+)/?$" => "/blog/index.php/$1"
    )
    }
The xmlrpc.php rule is necessary for external access (like, publishing from del.icio.us or Flickr), and the sitemap.xml file is something for Google Sitemaps.
For those stubborn visitors who always precede their URLs with www, you can also add a redirect:

$HTTP["host"] =~ "www.blog.forret.com" {
url.redirect = ( ".*" => "http://blog.forret.com")
}

วิธีแก้ SuPHP บน Kloxo 6.1.12 ไม่ Work ขึ้น Internal Server Error 500

วิธีแก้ SuPHP บน Kloxo 6.1.12 ไม่ Work ขึ้น Internal Server Error 500

 รื่องโดยสรุปของปัญหานี้ก็มีอยู่ว่า SuPHP ของ Kloxo มันยังไม่สเถียรนั้นเองครับ วิธีแก้ไขเบื้องต้นตอนนี้ก็ทำได้โดย Downgrade version ของ PHP ลงมา
ขั้นตอน
1. ssh ไปยัง server ของคุณ
2. ใช้คำสั่ง

yum list php
ถ้ามันบอกมาว่าเป็นเวอร์ชัน php.i386(x86_64) 5.2.17-13 แสดงว่าคุณติดตั้ง patch ล่าสุด(แต่ไม่ work)แล้ว และนี่ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิด error ดังกล่าวต้อง Downgrade มันลงมาซะ
3. ใช้คำสั่งนี้เพื่อ Downgrade ได้เลยครับ
yum downgrade php* --disablerepo=* --enablerepo=lxcenter-updates
4. ทีนี้ก็ลองกลับไปเลือก mode php ให้เป็น suphp ดูครับ แล้วก็อย่าเผลอสั่ง yum update อีกละ
ถ้าจะ update ระบบให้สั่ง yum upgrade เป็นราย package ไปแทนครับ
จบ


How to get SuPHP working on Kloxo 6.1.12



We all know that SuPHP is almost unusable in lastest version of Kloxo panel (6.1.12). You will always get an “Error 500″ after enabling “SuPHP” in you server. The cause for such error is the php-fpm patch in your latest php installation. Executing php-cgi calls directly will create problems for fastcgi for lighttpd & suphp for apache. The temporary solution for this problem is to get rid of the latest version and try downgrading your php.
Let’s Begin with Putty Commands:
01. First type “yum list php“, If you see “php.i386(x86_64) 5.2.17-13” then it means you have the latest version installed with the php-fpm patch. This is the one which is creating problem.
02. All you have to do is to downgrade your php installation. You can do that by typing “yum downgrade php*
What Will Happen Next?
It will downgrade your php installtion to “5.2.17-1″ and you can now use SuPHP with ease. Most of the people who were using WordPress platform for their content management (Like me) were having problems in installing plugins (Quick Cache etc) due to this new Kloxo update. I hope there will be a permanent solution in the near future.

Incoming search terms:

suphp kloxo error,kloxo 6 1 12 suphp,kloxo php type,kloxo suphp,kloxo suphp internal server error,kloxo suphp setup,kloxo wordpress 500,latest php version for kloxo 6 1 12,lxadmin 6 1 13 suphp,permalink suphp

One Response to “How to get SuPHP working on Kloxo 6.1.12”



แหล่งข้อมูล : http://www.dewesh.com/server-management/how-to-get-suphp-working-on-kloxo-6-1-12/

 

Saturday, May 19, 2012

วิธีติดตั้ง LXAdmin (Kloxo admin) บน CentOS



1. ตามปกติแล้วตัว Centos นั้นจะต้องไม่มีการ Block port 7777 หรือ 7778 ไม่เช่นนั้นจะทำให้เข้า LXAdmin Panel ไม่ได้ ก่อนอื่นให้เปิด Terminal (Putty) ขึ้นมา หรือ Access ผ่าน SSH คุณเข้าถึงเครื่องได้แบบไหนก็แบบนั้นแหละ โดยใช้สิทธิ root แล้วใช้คำสั่ง
# setenforce 0
แล้ว Enter ไปหนึ่งที ถ้า selinux enable อยู่มันจะขึ้นว่า selinux=disabled ถ้าไม่ขึ้นก็ช่างมัน แล้วก็เริ่มอัพเดทตัว linux server กันหน่อย
# yum update -y
2. คราวนี้ก็เริ่มทำการติดตั้งได้เลย
# wget http://download.lxcenter.org/download/kloxo/production/kloxo-installer.sh
# chmod 755 kloxo-installer.sh
# sh ./kloxo-installer.sh master
กด Enter เสร็จแล้ว ไม่ยากเลย คอยอย่างเดียว มันจะขึ้นให้เราเลือกยอมรับพวก GNU ลิขสิทธิ์นิดหน่อย ก็ยอมรับมันไปเหอะ ไม่ต้องคิดมาก
3. เซตตัว my.cnf กันเลย เพื่อความไหลลื่นของ mySQL (เลือกอันใดอันหนึ่งก็พอ)
ถ้าเรามีแรมอยู่ 512 MB ก็จะใช้ไฟล์ my-medium.cnf
# cp /usr/share/mysql/my-large.cnf /etc/my.cnf
# service mysqld restart
ถ้าเรามีแรมอยู่ 1-2 GB ก็ใช้อันนี้
# cp /usr/share/mysql/my-huge.cnf /etc/my.cnf
# service mysqld restart
4. เริ่ม login เข้าไป โดยใช้
http://IPaddress:7778 (https://IPaddress:7778)
user : admin
pass : admin

5. ทำการแก้ไข password เพื่อความปลอดภัย (รูป)
ที่เมนู Admin => Administration => Password

6. เพิ่ม DNS – Add a DNS Template (รูป)
ไปที่  Admin => Resource => DNS Template => Add DNS Template
DNS Template Name = ตั้งชื่ออะไรก็ได้ กันลืม เช่น MyDomain
Web Ipaddress = เลือกไอพีที่ต้องการ
Mail Ipaddress = เลือกไอพีที่ต้องการ
Primary DNS = ตั้งเป็น ns1.mydoamin.com
Secondary DNS = ตั้งเป็น ns2.mydoamin.com
กด Add เลย


7. สร้าง Package (รูป)
ไปที่  Admin => Administration => Resource Plan => Add Resource Plan
แล้วตั้งค่าไปตามที่กำหนด ส่วนมากจะเป็น unlimited

8. Add Customer (รูป)
ไปที่  Admin => Administration => Clients => Add Customer
กรอกข้อมูลตามจริง
9. MySQL Change Password เพื่อเอาไปใช้ในการติดตั้งโปรแกรมต่างๆต่อไป
ไปที่  Admin => Web&Mail&DB => MySQLPasswordReset


10. ปรับค่าฟังค์ชันการทำงานของตัว php กันด้วย
ไปที่  Admin => Web&Mail&DB => PHP Config
เปิดมาจะมี 2 tab คือ PHP Config กับ Advanced PHP Config โดยที่
10.1 PHP Config ให้เซตตามรูป โดยให้เลือก 4 ตัว คือ
Display Errors : ให้แสดงข้อความ ถ้ามี error เกิดขึ้น
Enable Xcache : ใช้ xcache ช่วยแบ่งเบาภาระ server
Enable Zend : สคริปต์ที่เข้ารหัสส่วนมากมักจะใช้ตัวนี้
Enable Ioncube : สคริปต์ที่เข้ารหัสส่วนมากมักจะใช้ตัวนี้

10.2 Advanced PHP Config ให้ลองปรับค่าเพิ่มขึ้นทีละ step ในส่วนของ (ไม่อธิบายละกัน มันยาวมาก)
Max Execution Time
Max Input Time
Memory Limit
Post Max Size
Upload File Max Size

11. ในกรณีที่เราลง wordpress MU ก็ให้ไปทำ wildcard DNS ด้วย
ในเมนู Domains เลือกโดเมนที่จะทำ wildcard แล้วให้ไปที่ Extra==> Server Alias ==> ใส่ * กด a


12. เสร็จทุกอย่างก็ให้ restart ตัว server ของเราทีนึง ก็จบเลย พร้อมใช้งาน

Monday, May 14, 2012

จะติดตั้ง kloxo แนะนำให้สั่งตามนี้ก่อนครับ

ผมลองมาแล้วเวลาติดตั้ง kloxo จะเร็วกว่าตอนยังไม่สั่งครับ
------------------------------------------------------------------------

   
# rpm --import /etc/pki/rpm-gpg/RPM-GPG-KEY*
# yum update -y
# yum groupinstall 'Development Tools' -y
# yum groupinstall 'Development Libraries' -y
# rpm --import http://dag.wieers.com/rpm/packages/RPM-GPG-KEY.dag.txt
# cd /tmp
# wget http://packages.sw.be/rpmforge-release/rpmforge-release-0.3.6-1.el5.rf.i386.rpm
# rpm -ivh rpmforge-release-0.3.6-1.el5.rf.i386.rpm
# yum install ntp httpd mysql-server php php-mysql php-mbstring php-mcrypt phpmyadmin rpm-build gcc mysql-devel openssl-devel cyrus-sasl-devel pkgconfig zlib-devel pcre-devel openldap-devel postgresql-devel expect libtool-ltdl-devel openldap-servers libtool gdbm-devel pam-devel gamin-devel -y
# yum install amavisd-new spamassassin clamav clamd unzip bzip2 unrar perl-DBD-mysql -y
# cd /etc/yum.repos.d/
# wget http://centos.karan.org/kbsingh-CentOS-Extras.repo
# yum --enablerepo=kbs-CentOS-Testing install install php php-devel php-gd php-imap php-ldap php-mysql php-odbc php-pear php-xml php-xmlrpc php-eaccelerator php-mbstring php-mcrypt php-mhash php-mssql php-snmp php-soap php-tidy curl curl-devel perl-libwww-perl ImageMagick libxml2 libxml2-devel mod_fcgid php-cli httpd-devel -y
# setenforce 0
# cd /root
# yum install -y wget
# wget http://download.lxcenter.org/download/kloxo/production/kloxo-install-master.sh
# sh ./kloxo-install-master.sh --db-rootpassword=
# reboot

 
Design by Laikeng | Bloggerized by Storesu - sutoday | Court